ความหวังนี้ประดุจดั่งแสงเทียน ที่ทำให้ความมืดมนสว่างขึ้นมา

ขอเล่าเรื่องความทรงจำที่เกี่ยวกับ TV ของวันนี้เมื่อ 7 ปีที่แล้วหน่อย ช่วงเย็นทีวีทุกช่อง ถูกปิดไปแล้ว ความหวังเดียวคือ ThaiPBS WebTV https://youtu.be/a8kvXhMlFP8 (เข้าใจว่าน่าจะเริ่มช่วง 1 ทุ่ม เพราะ 1 ชั่วโมงถัดมามีข่าวพระราชสำนัก) ความหวังนี้ประดุจดั่งแสงเทียน ที่ทำให้ความมืดมนสว่างขึ้นมา เพราะตอนนั้นมีแต่เพลงปลุกใจ และประกาศของคสช. เป็นระยะ ๆ ช่วงท้าย ๆ ของไลฟ์นี้ เป็นอาจารย์โคทม พูดอยู่ แล้วก็ทหารก็มาสั่งให้ยุติ ช่วงกล่าวปิด คุณวราวิทย์กล่าวปิดอย่างเท่เลย แล้วคุณณัฐฐาก็กล่าวปิดท้ายอีกที “ก็เป็นความพยามของ ThaiPBS ที่เกาะติดสถานการณ์มาอย่างต่อเนือง ตั้งแต่เวลาประมาณ 19 นาฬิกาหลังจากที่ประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่เราไม่สามารถออกอากาศได้ตามระบบปกตินะคะ เราจึงใช้ช่องทางนี้ ในการติดต่อรายงานคืบหน้าต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ณ ขณะนี้เราได้รับคำสั่งอีกครั้งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้เรายุติการออกอากาศไว้นาทีนี้ค่ะ ต้องขอบคุณทีมงาน และขอบคุณคุณผู้ชมทุกท่านที่เกาะติดสถานการณ์กับเรานะคะ เราจะกลับมาทำหน้าปกติ เมื่อเราสามารถรายงานได้ค่ะ” หลังจากนั้นก็ไปอยู่ใน Twitter รัว ๆ เพราะไม่มีอะไรให้ติดตามไม่รู้ว่า

มีใครเป็นแบบผมหรือเปล่า ที่แบ่งช่วงเวลาของชีวิตจาการรัฐประหาร ชีวิตก่อน รัฐประหารก่อนปี 49 ช่วงระหว่างปี 49 – 57 และช่วงหลังรัฐประหารปี 57 ในอเมริกาหรือโลกตะวันตกก็จะแบ่งแบบนี้เหมือนกัน ก่อนเหตุ 9/11 เป็นต้น

เขียนครั้งแรกที่ ในกลุ่มยามเฝ้าจอ


เขียนจากความทรงจำและความรู้สึกตอนนั้น มองมุมการเมืองเปลี่ยนตามช่วงวัย

คิดอยู่นานพอสมควรว่าจะเขียนหรือไม่เขียนดี แต่จำพูดพี่เก๋ สุภิญญา กลางณรงค์ เรื่อง self censorship ก็เลยเขียนเป็นความทรงจำ และพยามเขียนทุกอย่างเป็น fact

https://www.facebook.com/bi.suchathit/posts/2854904374824037